ค้นหาข้อมูล
การดูแลดวงตา
3319 view
 Post Date:  2/10/13 - 9:12:am
การดูแลดวงตา

การดูแลดวงตา

                ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ เพราะเราใช้ตาสื่อสารอารมณ์ภายใน และ ดวงตามีหน้าที่สื่อสารเรียนรู้ของมนุษย์ของเรามากที่สุดถึง 80% รองลงมาเป็นการฟัง 10% เท่านั้น ดังนั้นเราควรถนอมดวงตาเราให้อยู่กับเราตลอดชีวิต การถนอมดวงตา เริ่มจาก

                1.ระวังอุบัติเหตุที่อาจมาทำร้ายดวงตา เช่น จากการทำงานโดยเฉพาะ เจียร์เหล็ก หรือเชื่อมเหล็ก ควรมีอุปกรณ์ป้องกัน หรือใส่แว่นกันกระแทก ที่เลนส์แว่นเป็นชนิด โพลีคาร์บอเนต เพราะมีความแข็ง ปกป้องดวงตาด้วยการใส่แว่นกันแดดที่ป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเลต เพราะรังสีดังกล่าวทำให้เนื้อเยื่อเสื่อมเร็ว เป็นสาเหตุการเกิดต้อกระจก ต้อเนื้อ รวมทั้งการเสื่อมของจุดรับภาพ

                2.ไม่ใช้สายตาหักโหม หรือผิดวิธี โดยเฉพาะปัจจุบัน มีแหล่งข้อมูลข่าวสารมากมายทำให้มีการใช้สายตาเพิ่มขึ้น และบางครั้งใช้ผิดวิธี เช่น ดูใกล้หรือแสงสว่างไม่เพียงพอ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่โดยเฉพาะในเด็ก อาจทำให้สายตา ผิดปกติเร็ว บางรายอาจเป็นสาเหตุทำให้ตาเขได้ ถ้าผู้ใหญ่ก็อาจมีอาการปวดตาได้บ่อย หลังใช้สายตา ดังนั้นเราควรใช้สายตาให้ถูกวิธี ร่วมกับการพักสายตา โดยการหลับตาหรือมองไปไกลๆ ที่สบายตา เช่น มองไปบริเวณสนามหญ้าสีเขียว ส่วนการกระพริบตาก็สามารถลดอาการดวงตาอ่อนล้าได้ โดยจะกระจายความชุ่มชื้นของน้ำตาบริเวณผิวตาทำให้เห็นภาพคมชัด

            3.หมั่นตรวจตาโดยเฉพาะถ้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีประวัติในครอบครัวมีปัญหาทางตา ได้แก่ ต้อหิน หรือโรคตาบอดทางพันธุกรรม หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ควรรับการตรวจตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อได้ทราบตั้งแต่เริ่มต้น และแพทย์จะได้แนะนำการรักษาโดยเร็ว ซึ่งผลการ รักษาดีมากในบางโรค แม้ไม่มีอาการผิดปกติ เพราะบางโรคมีอาการ เมื่อโรคเป็นมากแล้ว

                ส่วนบุคคลที่มีอายุเกิน 40 ปี แม้ไม่มีความเสี่ยงโดยทั่วไปก็ควรตรวจสุขภาพตา และสายตา เพราะช่วงนี้เริ่มมีปัญหาสายตายาวตามอายุ ต้อหิน ต้อกระจก สูงขึ้น

 

เกณฑ์การตรวจตา

อายุ(ปี)

ควรตรวจตา

3-7

7-15

15-20

20-40

>40

อาจตรวจตาทุก 2 ปี หากการมองเห็นสองตาเท่ากัน

ควรตรวจตาทุก 1 ปี เพราะร่างกายเจริญเติบโตเร็ว

ควรตรวจตาทุก 2 ปี

ควรตรวจตาทุก 3-5 ปี

ควรตรวจตาทุก 1 ปี

 

                4.ไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เพราะยาหยอดตาบางชนิด เช่น ยาแก้อักเสบกลุ่มสเตียรอยด์ ถ้าใช้โดยพร่ำเพรื่อขาดการตรวจผลแทรกซ้อนโดยจักษุแพทย์อาจทำให้เกิดต้อหิน ต้อกระจกได้

                5.ถ้ามีอาการทางตา ที่ผิดปกติควรรีบพบจักษุแพทย์ โดยเฉพาะตามัวมืดทันที อาการปวดตามาก อาการตาแดงมาก ตาสู้แสงไม่ได้ ตาโปนบวม หรือเห็นภาพซ้อน และมีโรคตาเรื้อรัง เช่น ต้อหิน ผู้ป่วย ควรตรวจตามแพทย์นัด และหยอดยาสม่ำเสมอเพื่อให้จักษุแพทย์ทำการรักษาให้ได้ผลดี

                6.ดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดี เช่น งดสูบบุหรี่ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักใบเขียว ที่มีสารเบต้าแคโรทีน พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ การทานยา หรือหยอดยาตาบางชนิดควรใช้ด้วย ความระมัดระวัง