ค้นหาข้อมูล
ข้อมูลและประวัติของประเทศบรูไน
64807 view
 Post Date:  20/10/12 - 10:31:am
ข้อมูลและประวัติของประเทศบรูไน

 

ประเทศบรูไน

 

ชื่อทางการ             : บรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)

เมืองหลวง              : บันดาร์เสรีเบกาวัน (Bandar Seri Begawan)

ศาสนาประจำชาติ   : ศาสนาอิสลาม

ดอกไม้ประจำชาติ   : ดอกซิมปอร์ (Simpor) ดอกซิมปอร์มีปรากฏอยู่บนธนบัตร 1 ดอลลาร์บรูไนด้วย

วันชาติ                   : 23 กุมภาพันธ์

วันที่เป็นสมาชิกอาเซียน : 7 มกราคม พ.ศ.2527

ภาษาประจำชาติ     : ภาษามาเลย์ (Bahasa Melaysia)

ภาษาราชการ         : ภาษามาเลย์ (Bahasa Melaysia)

 

 

ลักษณะทางภูมิศาสตร์

          บรูไนมีพื้นที่ประมาณ 5,765 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บนเกาะบอร์เนียว ในทะเลจีนใต้

 

 

“ภูมิประเทศ”

          ประกอบด้วยพื้นที่สองส่วนที่ไม่ติดกัน โดยพื้นที่ด้านตะวันตก มีประชากร 97% ส่วนพื้นที่ด้านตะวันออกซึ่งเป็นภูเขา มีประชากรเพียง 10,000 คน สำหรับพื้นที่ชายฝั่งทางด้านเหนือของบรูไน ติดกับทะเลจีนใต้ ส่วนพรมแดนทางบกที่เหลือทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยรัฐซาราวักประเทศมาเลเซีย

 

“ภูมิอากาศ”

          ภูมิอากาศเขตร้อน มีอุณหภูมิและความชื้นสูง และมีฝนตกชุกตลอดปี

 

ประชากร

          มีจำนวนประชากรประมาณ 401,890 คน ส่วนใหญ่มีเชื้อชาติมลายูรองลงมาคือ จีน และชาวพื้นเมือง

 

การเมืองการปกครอง

          ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นทั้งประมุข นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พระมหากษัตริย์ของบรูไนจะต้องเป็นชาวบรูไนเชื้อสายมาเลย์โดยกำเนิดและนับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ สำหรับพรรคการเมืองจะถูกจำกัดบทบาทอย่างมาก ปัจจุบันบรูไนแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 4 เขต คือบรูไน- มูอารา เบเลต ตูตง และเตมบูรง

 

เศรษฐกิจและทรัพยากรที่สำคัญ

          บรูไนเป็นประเทศร่ำรวย เพราะเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอาเซียน และเป็นผลิตก๊าซธรรมชาติ LNG เป็นอันดับ 4 ของโลก สินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ บรูไนยังมีอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลที่มีมาตรฐานการผลิตที่ถูกต้องตามบัญญัติของศาสนาอิสลาม ปัจจุบันบรูไนมีการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความหลากหลาย โดยการส่งเสริมบทบาทของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมทั้งเปิดเสรีด้านการค้า

 

ประวัติ

          *ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14-16 บรูไนมีอำนาจและชื่อเสียงทางด้านการค้า และครอบครองอาณาเขตส่วนใหญ่ในเกาะบอร์เนียวและส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซูลุ

          *ต่อมาเมื่อสเปนและฮอลันดาแผ่อำนาจเข้ามาในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บรูไนก็เสียดินแดนและเสื่อมอำนาจลง

          *ใน พ.ศ.2449 บรูไนได้ลงนามในสนธิสัญญายินยอมเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ เพราะเกรงว่าจะต้องเสียดินแดนไป และหลังจากนั้นไม่นานบรูไนก็สำรวจพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่เมืองเซรีอา ทำให้บรูไนเป็นประเทศที่มีฐานะมั่งคั่ง

          *ใน พ.ศ.2505 พรรคประชาชนบอร์เนียวได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นจากการเลือกตั้ง แต่ถูกกีดกันไม่ให้จัดตั้งรัฐบาล จึงมีความพยายามที่จะยึดอำนาจจากสุลต่านแต่ไม่สำเร็จ รัฐบาลของสุลต่านจึงประกาศกฎอัยการศึก โดยต่ออายุประกาศทุกๆ 2 ปี เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

          *บรูไนได้รับเอกราช เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2527 หลักจากอยู่ภายใต้อารักขาของอังกฤษมานานถึง 95 ปี