บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย
3.1 ประเภทของการวิจัย
การวิจัยในครั้งนี้ใช้ระเบียงการวิจัยเชิงวินิฉัย ( Diagnostic research ) และระเบียงวิธีวิจัยเชิงสำรวจ โดยให้ผู้ตอบกรอกคำตอบเองในแบบสอบถาม
ตอนที่ 1 .สำรวจข้อมูลส่วนบุคคล
- เพศ
- อายุ
- รายได้
ตอนที่ 2 . ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้าน
2.1 ด้านผลิตภัณฑ์
- สภาพแวดล้อมโดยรวม
- บริการจากส่วนกลางหรือเจ้าของโครงการ
- การคมนาคม
- ประเภทของบ้าน
- พื้นที่จอดรถ
- มีสนามหญ้าหน้าบ้าน
- สภาพชุมชนโดยรวม
- เพื่อนบ้าน
- แบบบ้านตัวอย่าง
2.2 ด้านราคา
-ราคาบ้านมีความเหมาะสมกับประเภทของบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
- ราคาเหมาะสมกับภาพลักษณ์กับตราสินค้าของบ้าน
- จำนวนเงินจอง / ดาวน์ อัตรเงินกู้ของธนาคาร ระยะเวลาการผ่อนชำระเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ
2.3 ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย
- มีช่องทางจัดจำหน่ายหลากหลาย
- ที่จอดรถในการมาติดต่อโครงการสะดวก
- มีการให้บริการแบบบริการ ณ.จุดเดียว
2.4 ด้านการส่งเสริมการตลาด
- มีการจัดรายการพิเศษ
- มีสื่อโฆษณาที่ชัดเจนและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
- มีการจัดบูช ตามสถานที่ต่างๆ เช่นศูนย์การค้า
3.2 กลุ่มตัวอย่างและลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง
การวิจัยในครั้งนี้กลุ่มตัวอย่างคือพนักงานที่ทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีลักษณะดังนี้
- เป็นเพศชายหรือหญิง
- อายุตั้งแต่ 26 ปีขึ้นไป
- รายได้ไม่จำกัด
3.3 เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถามจำนวน 100 ชุด โดยเก็บรวบรวมจากพนักงานที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ จากหลายๆ บริษัทจำนวนทั้งสิ้น 100 คน
3.4 การวิเคราะห์ข้อมูลและวิธีการทางสถิติที่ใช้
การวิเคราะห์ข้อมูลแบบพรรณา ได้แก่อัตราส่วนร้อยละ ( Percentage ) ค่าเฉลี่ย ( Mean ) และความถี่ ( Frequency )
โดยการวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วยคำถามเกี่ยวกับ เพศ อายุ รายได้
ส่วนที่ 2 เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้าน ซึ่งในตอนี้จะเป็นการวัดระดับความพึงพอใจ โดยกำหนดน้ำหนักของการประเมินดังนี้
ระดับความพึงพอใจ ค่าประเมิน
ดีมาก 5
ดี 4
ปากกลาง 3
น้อย 2
น้อยที่สุด 1
การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติในการวิจัยครั้งนี้นั้นใช้คำถามเป็นแบบมาตรฐานส่วนประมาณค่า ( Rating Scale ) มักจะมีค่าเฉลี่ยเป็นตัวสถิติ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บมาได้จากจำนวนตัวอย่างทั้งหมด ค่าเฉลี่ยที่คำนวณได้ส่วนใหญ่จะมีทศนิยม 2 ตำแหน่ง ดังนั้นผู้วิจัยจึงต้องกำหนดเกณฑ์การแปลความหมายเพื่อจัดระดับค่าเฉลี่ย ( ธานินทร์ ศิลป์จารุ .2550:77 ) ออกเป็นช่วงดังนี้
ค่าเฉลี่ย 4.50-5.00 กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์ มากที่สุด
ค่าเฉลี่ย 3.50-4.49 กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์ มาก
ค่าเฉลี่ย 2.50-3.49 กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์ ปานกลาง
ค่าเฉลี่ย 1.50-2.49 กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์ น้อย
ค่าเฉลี่ย 1.00-1.49 กำหนดให้อยู่ในเกณฑ์ น้อยที่สุด
3.5 ขั้นตอนการดำเนินงาน
ขั้นตอนที่ 1. การวางแผนงานวิจัย
ตั้งแต่ 18 - 24 มีนาคม 2555 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 7 วัน
- ทำการศึกษาและตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ว่าเพียงพอหรือไม่
- จัดหาข้อมูลเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 2 . การออกแบบสอบถาม ทดสอบแบบสอบถามและปรับปรุงแก้ไข
ตั้งแต่ 25 – 31 มีนาคม 2555 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 7 วัน
ขั้นตอนที่ 3. เก็บรวบรวมข้อมูล
ตั้งแต่ 1 – 7 เมษายน 2555 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 7 วัน
- ทำการแจกแบบสอบถามตามโรงงานต่างๆ
- ทำการเก็บรวบรวมแบบสอบถามที่ได้รับการตอบแล้ว
ขั้นตอนที่ 4. สรุปวิเคราะห์ข้อมูลและรายงาน
ตั้งแต่ 8 – 15 เมษายน 255 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 7 วัน
- นำข้อมูลที่ได้รับจากแบบสอบถามมาทำการวิเคราะห์
- จัดทำผลการวิเคราะห์ข้อมูล และรายงานการวิจัย
- นำเสนอผลการวิจัย
รวมระยะเวลาทำการวิจัยทั้งสิ้น 28 วัน