ค้นหาข้อมูล
คำพังเพย สุภาษิตและสำนวนไทย หมวด ส.
8379 view
 Post Date:  14/8/12 - 8:50:pm
คำพังเพย สุภาษิตและสำนวนไทย หมวด ส.

สวรรค์บนดิน 
         คำนี้เป็นเพียงสำนวนมิใช่คำพังเพยหรือสุภาษิต เป็นสำนวนสร้างขึ้นมาเป็นทำนองเยาะเย้ยถากถาง ดังเช่นคำที่ว่า “สามล้อถูกหวย” สำนวน “สวรรค์บนดิน” คำๆ นี้มาจากชาวเรือประมงที่ต้องออกไปหาปลาในทะเลเป็นเวลานานๆ พอกลับมาถึงฝั่งได้เงินค่าแรง ก็ออกตระเวนเที่ยวเตร่ทั้งผู้หญิงและเหล้ายาปลาปิ้ง ไม่มีอั้น เพราะมีเงินซื้อความสุขสุดยอด ที่พวกเขากล่าวว่ามันคือ “สวรรค์บนดิน”


สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล
         สำนวนคำพังเพยคำนี้ โบราณนำเอานามธรรมมาเปรียบเทียบให้เห็น ว่าสำเนียงพูดและกิริยาท่าทาง เป็นเครื่องแสดงความเป็นอารยชนของคนว่าเป็นอย่างไร มีคำที่จะต้องอธิบายขยายความเข้าใจอยู่สองคำคือ สำเนียง หมายถึงคำพูด ชาติ ภาษา หรือชาติกำเนิด ส่วนกิริยาท่าทางนั้นบอกให้เห็นถึงการเลี้ยงดูที่ถูกอบรมสั่งสอนมา เช่น เรียบร้อย หรือหลุกหลิก จึงสามารถสรุปได้ว่าหากต้องการจะรู้ว่าผู้ที่เราสนทนาด้วยเป็นคนเชื้อชาติใด ก็จะดูได้จากภาษา และจะดูว่าเขาเป็นคนที่ถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างไร ก็จะดูได้จากกิริยาท่าทาง


สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น
         คำพังเพยสำนวนนี้โบราณสร้างไว้เพื่อเตือนคนว่า จะพูดจาสิ่งใด ต้องมีความจริง ไม่ใช่พูดไปตามกระแสข่าวลือ ถ้าไม่เห็นด้วยตาก็อย่าพูด จึงอุปมาไว้ว่า แม้คำพูดสิบปาก ก็เชื่อยากกว่าเห็นด้วยตาตนเอง


สีซอให้ควายฟัง
         โบราณสร้างคำพังเพยคำนี้ขึ้นโดยเทียบเอาระหว่างซอ ที่เป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงไพเราะกับควายที่ผู้คนมักจะเอาไปเปรียบกับคนโง่ว่า “โง่เหมือนควาย” สำนวนนี้อุปมาว่า การพูดสั่งสอนแนะนำคนโง่ มักจะได้ผลและเสียเวลาเปล่าๆ เหมือนสีซอให้ควายฟัง แต่ควายก็ไม่รู้เรื่อง (สู้กินหญ้าไม่ได้)


สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
         สำนวนคำพังเพยคำนี้เป็นสำนวนที่โบราณกล่าวไว้เป็นเชิงเห็นอกเห็นใจ มีความหมายว่า สัตว์ที่มีสี่เท้า เช่น ช้างม้าวัวควาย ก็ยังมีโอกาสล้มได้เมื่อไปอยู่ในที่ลื่น เฉกเช่นนักปราชญ์ หรือผู้รู้ก็มีโอกาสผิดพลาดได้ เช่น ให้ข้อมูลที่ผิดพลาด หรือ ให้ความรู้ที่ไม่ตรงกับความจริงที่เกิด (ที่อาจจะเกิดจากความคลาดเคลื่อน หลงลืม)


เสน่ห์ปลายจวัก
         คำพังเพยสำนวนนี้ เป็นคำโบราณกล่าวถึงความมีเสน่ห์ของสตรีว่า สตรีที่เป็นแม่เหย้าแม่เรือนนั้นจะต้องมีความสามารถในการปรุงอาหารให้มีรสถูกปากของสามีหรือคนรอบข้าง โดยถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เพราะสมัยโบราณนั้นมุ่งความสามารถในการดูแลเหย้าเรือนและอาหารการกินของแม่บ้านมากกว่าสิ่งอื่น แม้รูปร่างก็ยังไม่สำคัญ จนถึงกับมีคำพูดว่า “เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย”


เสือทลายห้าง ช้างทลายโรง
         โบราณนำเรื่องราวของสัตว์สองชนิดคือ “เสือ” และ “ช้าง” มาสัมพันธ์กับ “ห้าง” และ “โรง” มีคำที่จะขออธิบายให้เข้าใจกันก่อนคือคำว่า “ห้าง” หมายถึงที่บนต้นไม้ (สร้างด้วยกิ่งไม้) สำหรับดักยิงสัตว์ หรือกระท่อมที่ทำไว้เฝ้านาเฝ้าสวน “โรง” คือสิ่งปลูกสร้างที่มีหลังคาคลุมพื้นติดดิน (หรือใช้ดินเป็นพื้น จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือเป็นที่เก็บของก็ได้ เวลาเสือจะทลายห้าง หรือช้างจะทลายโรง ก็จะมีเสียงดัง โบราณจึงเรียกคนที่ส่งเสียงแสดงกิริยาเอะอะตึงตัง (โดยไม่เลือกเวลา) ว่าพวกเสือพวกช้างทลายห้างทลายโรง ดังกล่าว


เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน
         โบราณมีกีฬาชนิดหนึ่งที่จะจัดกันหลังฤดูเสร็จสิ้นการทำนาคือการ “ชนควาย” เจ้าของควายจะเสี้ยมเขาควายของตนให้แหลมเพื่อใช้ประโยชน์ในการขวิดกับควายตัวอื่นที่เป็นคู่ต่อสู้โบราณจึงนำกรรมวิธีนั้นมาสร้างเป็นสำนวนบอกกล่าวถึงคนที่ทำอย่างนั้นว่า เป็นพวกเสี้ยมเขาควาย หมายถึงคนที่ชอบยุยงให้คนอื่นทะเลาะวิวาท หรือโกรธเกลียดกัน มีสำนวนที่มีความหมายใกล้กันอีกสองสำนวนคือ “บ่างช่างยุ” และ “ยุให้รำตำให้รั่ว”


สู้เหมือนหมาจนตรอก
         โบราณสร้างสำนวนนี้ขึ้นเพื่อกล่าวถึงคนที่ไม่มีทางไป ต้องหันมาสู้ (ใช้ในการต่อสู้กัน) แบบสู้ตายถวายชีวิต การสู้แบบนี้เรียกว่าสู้แบบหมาจนตรอก คือฮึดสู้เพราะไม่มีทางหนี (ถูกบีบบังคับให้สู้) เหมือนหมาพลัดถิ่นที่ถูกหมาเจ้าถิ่นรุมล้อมกัดหนีจนไม่มีทางหนีต้องหันมาสู้ โบราณจึงนำเอาพฤติกรรมของหมานั้นมาสร้างเป็นคำพังเพยสอนคน 


สวรรค์ในอก นรกในใจ
         โบราณยกเอาเรื่องเกี่ยวกับบาปบุญคุณโทษ เรื่องสวรรค์ โลกของเทวดาบนฟ้าเป็นแดนที่มีแต่ความสุข และนรก เป็นแดนลงโทษผู้ทำบาป เป็นแดนที่มีแต่ความทุกข์ทรมาน มาสร้างเป็นคำพังเพยที่บอกกล่าวถึงความสุขที่เกิดจากการสร้างความดี หรือความทุกข์ที่เกิดจากการสร้างความชั่ว ย่อมอยู่ในใจของผู้ทำเอง


สวมหน้ากากเข้าหากัน
         โบราณนำความเป็นคนที่เป็นจริงอย่างหนึ่งมาสร้างเป็นสำนวนเรียกคนว่า เป็นพวกที่จะแสดงกิริยาอาการที่มิได้เกิดจากนิสัยใจจริง แสดงกิริยาลวงให้เข้าใจผิดว่าเป็นพวกชอบใส่หน้ากากเข้าหากัน มีแต่เรื่องเท็จไม่มีเรื่องจริง