บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ประกาศเปิดตัว พอร์ทเทเบิ้ล โมดูลาร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ (Portable Modular Data  Center) ดาต้าเซ็นเตอร์เคลื่อนที่สมรรถนะสูงขนาดคอมแพคที่มาพร้อมฟังก์ชันหลากหลายและความประหยัดพลังงาน ติดตั้งและต่อขยายได้รวดเร็วรองรับทุกความต้องการทางธุรกิจ การเปิดตัวครั้งนี้ ไอบีเอ็มมุ่งเสริมการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมไทย โดยมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ในส่วนภูมิภาค สถานที่ห่างไกล หรือไซท์งานชั่วคราว เช่น กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจพลังงาน บริษัทที่ต้องการสร้างหรือต่อขยายดาต้าเซ็นเตอร์ แต่ไม่มีพื้นที่ภายในอาคาร หรือ ธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นการใช้คลาว์คอมพิวติ้ง รวมทั้งบริษัทที่ต้องการความปลอดภัยและความต่อเนื่องทางธุรกิจเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ

สำหรับพอร์ทเทเบิ้ล โมดูลาร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ติดตั้งอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งมาตรฐานไอเอสโอ (ISO) ซึ่งเอื้อให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา และพื้นที่สำหรับสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ได้ในระยะเวลาจำกัด ด้วยรูปแบบของคอนเทนเนอร์ที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนา สามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้ ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์แบบใหม่จากไอบีเอ็ม ออกแบบได้ตามความต้องการของผู้ใช้ สามารถสร้าง จัดส่งและนำไปใช้งานได้ในทุกสภาพสิ่งแวดล้อม และทุกสถานที่ภายในระยะเวลาเพียง 12 ถึง 14 สัปดาห์  ด้วยความสะดวกคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทำให้ธุรกิจต่างๆสามารถใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์ได้ทั้งในรูปแบบดาต้าเซ็นเตอร์ระยะไกล ดาต้าเซ็นเตอร์แบบชั่วคราว ดาต้าเซ็นเตอร์เคลื่อนที่ และดาต้าเซ็นเตอร์แบบไพรเวทและพับลิคคลาวด์

พอร์ทเทเบิ้ล โมดูลาร์ ดาต้าเซ็นเตอร์จากไอบีเอ็มยังโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรองรับเทคโนโลยีแบบเปิด สถานที่จัดเก็บรวมทั้งผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานหลากหลายรูปแบบ และยังความโดดเด่นในการประหยัดพลังงานได้มากถึง 50% หากเปรียบเทียบกับดาต้าเซ็นเตอร์แบบเก่า ด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่มีพร้อมทั้งระบบไฟฟ้า และระบบทำความเย็นและการตรวจสอบได้จากระยะไกล ดาต้าเซ็นเตอร์เคลื่อนที่นี้จึงมีฟังค์ชั่นปฏิบัติการที่ครบครัน เหมือนกับดาต้าเซ็นเตอร์ระบบพื้นยก (Raised-floor) ทุกประการ โดยรวมถึงความสามารถในการป้องกันไฟ ควัน ความชื้น แรงดันและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นภายในยังสะดวกต่อการบำรุงรักษา โดยสามารถซ่อมบำรุงได้จากภายในตัวดาต้าเซ็นเตอร์เอง ในสภาพแวดล้อมที่แน่นหนา และปลอดภัยในตู้คอนเทนเนอร์

นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจบริการ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ความสามารถในการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการทางธุรกิจ ความปลอดภัยและความทนทานของดาต้าเซ็นเตอร์เคลื่อนที่ ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าพอร์ทเทเบิ้ล โมดูลาร์ ดาต้าเซ็นเตอร์จากไอบีเอ็มจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับธุรกิจในประเทศไทยในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ เช่นธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจน้ำมันและพลังงาน หรือ แม้แต่ในการทหาร ซึ่งสามารถนำพอร์ทเทเบิ้ล โมดูลาร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ไปใช้ในไซท์งานในพื้นที่ต่างจังหวัด หรือกลุ่มการเงินการธนาคารที่สามารถใช้ดาต้าเซ็นเตอร์นี้ เป็นศูนย์กู้ข้อมูลจากภัยพิบัติ (Disaster Recovery Center)

รอง กก.ผจก.ใหญ่ ฝ่ายธุรกิจบริการ บ.ไอบีเอ็ม กล่าวอีกว่า แม้แต่ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ที่ยังนำดาต้าเซ็นเตอร์ไปตั้งอยู่ ณ สถานที่ถ่ายทำ เพื่อสร้างงานที่ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ เช่นการตัดต่อโดยไม่จำเป็นต้องส่งเทปหรือข้อมูลไปยังอีกสถานที่หนึ่ง นอกจากนี้ดาต้าเซ็นเตอร์แบบเคลื่อนที่นี้ยังเหมาะกับธุรกิจอีเวนท์ หรือ นิทรรศการ ซึ่งสามารถให้บริการด้านคอมพิวเตอร์แก่ผู้มาออกนิทรรศการจำนวนมาก เพราะนำไปใช้ได้ในทุกสภาพแวดล้อม เนื่องจาก ทนทานต่อฝน ป้องกันฝุ่นละออง รวมทั้งอุณหภูมิสูงอีกด้วย และลักษณะที่สำคัญที่สุดก็คือดาต้าเซ็นเตอร์ตัวใหม่จากไอบีเอ็มนี้สามารถซ่อมบำรุงได้จากภายในโดยไม่ต้องเปิดตู้ ช่วยป้องกันระบบไอทีภายในจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอก

“ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์แบบเคลื่อนที่ ที่ติดตั้งอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์เติบโตขึ้นอย่างสูง เนื่องจากลูกค้าต้องการความรวดเร็วในการขยายขีดความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูล องค์กรในยุคปัจจุบันไม่สามารถที่จะรอการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ ที่จะใช้ระยะเวลาถึงสองปีได้อีกต่อไป ไอบีเอ็มจึงเสนอทางเลือกที่ช่วยลูกค้าก้าวข้ามอุปสรรค ทั้งในด้านของระยะเวลาในการก่อสร้างและสถานที่ในการใช้งาน ด้วยโซลูชันที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัว ปลอดภัย ที่จะมาช่วยในการขยาย และเพิ่มสมรรถนะของดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างประหยัดพลังงาน อีกทั้งสามารถนำไปใช้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วภายในไม่กี่สับดาห์ ไอบีเอ็มจึงเชื่อมั่นว่า ด้วยดาต้าเซ็นเตอร์เคลื่อนที่ เทคโนโลยีล่าสุดที่เปิดตัวนี้ จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจไทยให้ขยายตัวพัฒนาขีดความสามารถ สู่การแข่งขันระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายธวัชชัย กล่าว

ที่มาของข่าว : ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 09 – 06 – 2554