ประเพณีบายศรีสู่ขวัญ
บายศรี หมายถึง ข้าวอันเป็นสิริ ข้าวขวัญ ภาชนะใส่เครื่องสังเวยในพิธีทำขวัญ
ขวัญ หมายถึง นามธรรมอันหนึ่งคล้ายพลังจิตที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ตั้งแต่เป็นเด็กทารก มีความเชื่อว่าถ้าขวัญของผู้ใดอยู่กับตัวผู้นั้นจะมีความสุขกายสบายใจแต่ถ้าขวัญของผู้ใดหายไปนั้นจะมีลักษณะอาการตรงกันข้ามพิธีกรรมบายศรีสู่ขวัญจะช่วยทำให้ขวัญมั่นคงและมีพลังใจเข้มแข็ง
การบายศรีสู่ขวัญ เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ทำพิธีเพื่อเรียกขวัญให้กลับมาอยู่กับตัว ให้ขวัญเป็นเหมือนผู้ที่คอยดูแลประคับประคองชีวิตให้มีจิตใจเข้มแข็งมีความปลอดภัย
การบายศรีสู่ขวัญ จัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งจะจัดในงานมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ บวช แต่งงาน งานต้อนรับ งานเลื่อนยศ การย้ายที่ เป็นต้น
พิธีกรรมจะต้องมี บายศรี เย็บด้วยใบตอง 3 ชั้น และมีสิ่งอื่นๆ คือ
ดอกบัว หมายถึง บัวประเภทที่ 4 ที่ พ้นจากผิวน้ำ
เทียนชัย หมายถึง แสงสว่างส่องทางปัญญา
น้ำมะพร้าวอ่อน หมายถึง น้ำใจอันบริสุทธิ์
แว่นเทียน 3 อัน หมายถึง ภพทั้ง 3 คือ ภาพภพ รูปภพ อรูปภพ
เทียน 9 เล่ม หมายถึง ไฟ 3 กอง โดยแบ่งเป็น ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ โดยติดไว้อย่างละ 3 เล่ม
สายสิญจน์ หมายถึง ห่วงแห่งความผูกพัน
ส่วนประกอบอื่นๆ ได้แก่ หมาก พลู บุหรี่ อาหาร ข้ามต้ม ขนมหวาน ไก่ต้ม สุรา
พิธีบายศรีสู่ขวัญ เริ่มโดยการแห่เป็นขบวนแล้วนำพานบายศรีมาตั้งบนโต๊ะ หรือตั่งที่ปูผ้าขาว จากนั้นพราหมณ์จะเป็นผู้สวดชุมนุมเทวดาจุดเทียน เวียนหัว หลังจากนั้นจะจุดธูป กราบพระพุทธรูป พระสงฆ์ ผู้สวดจะเชิญขวัญ และให้เจ้าของขวัญจับพานขวัญ ส่วนคู่สู่ขวัญเอามือขวาจับด้ายสายสิญจน์ ผู้สวดอวยพร ผูกข้อมือเป็นอันว่าเสร็จพิธีการ
ประเพณีการบายศรีสู่ขวัญ อาจจะมีพิธีการแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ละท้องถิ่น แต่ละภาคหรือตามแต่ละประเภทของงานที่จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ